1. ลิเวอร์พูล ออกสตาร์ทอย่างกระตือรือล้น
ให้หลังจากความผิดหวังในเกมที่ เนเปิลส์ ราว 1 สัปดาห์ เกมนี้ลูกทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ออกสตาร์ทอย่างเข้มข้น พวกเขาบดบี้ อาแจ็กซ์ ตั้งแต่เสียงนกหวีดเริ่มต้นเกมแตกต่างจากเกมพ่าย นาโปลี อย่างเห็นได้ชัด
หงส์แดง สร้างโอกาสอย่างต่อเนื่องกระทั่งมาได้ประตูเบิกร่องตั้งแต่นาทีที่ 17 จากการทำประตูของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทว่าก็มาเสียประตู 1-1 เพียง 10 นาทีให้หลังจากนั้น
2. ติอาโก้ ยกระดับแดนกลาง หงส์แดง
ติอาโก้ อัลคันทารา ฟิตเต็มถังกลับมาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้กับ ลิเวอร์พูล ในเกมนี้และกลายเป็นกำลังสำคัญขับเคลื่อนแดนกลางของ หงส์แดง
มิดฟิลด์วัย 31 ปีเป็นกองกลางที่สัมผัสบอลมากที่สุดในสนาม (77 ครั้ง) เอาตัวรอดเมื่อถูกบีบพื้นที่ คอยสร้างสรรรค์เกมผ่านบอลสู่พื้นที่สุดท้ายให้กับเพื่อนร่วมทีม ต่างกับเกมปราชัยต่อ นาโปลี ราวฟ้ากับเหว
3. ไม่มี ร็อบโบ้ ไม่มีปัญหา
คอสตาส ซิมิคาส ได้รับความไว้วางใจให้ออกสตาร์ทที่ตำแหน่งแบ็คซ้ายแทนที่ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ที่ได้รับบาดเจ็บโดยแบ็คซ้ายชาว กรีซ จบเกมด้วยสถิติการผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมสับไกยิง (คีย์พาส) ได้มากที่สุดที่จำนวน 5 ครั้ง เป็น 1 แอสซิสต์ให้กับ โจเอล มาติป ในประตูชัยท้ายเกม
เจ้าตัวยังทำสถิติเป็นนักเตะเพียงคนเดียวในสนามที่ครอสจากริมเส้นแตะเลข 2 หลัก (ทั้งหมด 14 ครั้ง)
4. ประตูชัยของ มาติป
ลูกโหม่งประตูชัยนาทีที่ 89 ของ โจเอล มาติป นับเป็นประตูที่ 10 ของเจ้าตัวในยูนิฟอร์ม เร้ดแมชีน เมื่อรวมทุกรายการ โดยทั้ง 10 เกมดังกล่าวที่ปราการหลังชาว แคเมอรูน พังประตูได้ ลิเวอร์พูล สามารถรอดพ้นจากความปราชัยได้ทั้งหมด (ชนะ 9 เสมอ 1)
สนับสนุนโดย Line : @Gamemun