สุดดราม่า! กระทิงดุ ไล่ขวิด ตาหมากรุก ช่วงต่อเวลาพิเศษ 5-3 ทะยานรอบ 8 ทีม
การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2020” รอบ 16 ทีมสุดท้าย คู่ที่ 5 เป็นการพบกันระหว่าง “ตาหมากรุก” โครเอเชีย รองแชมป์โลก จะเจอกับ “กระทิงดุ” สเปน อดีตแชมป์ 3 สมัย ที่ปาร์เก้น สเตเดียม กรุงโคเปนเฮเก้น ประเทศเดนมาร์ก เมื่อคืนวันที่ 28 มิถุนายน
เกมนี้ ซลัตโก้ ดาลิช กุนซือโครเอเชียมีปัญหาในการจัดทัพหลังจากที่ อิวาน เปริชิช ติดเชื้อโควิด-19 และต้องเข้ารับการกักตัว โดย ดาลิช จัดทีมในระบบการเล่น 4-3-3 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู โดมินิก ลิวาโควิช, กองหลัง โยซิป จูราโนวิช, โดมากอย วิด้า, ดูเจ คาเลตา-คาร์, ยอสโก้ กวาร์ดิออล, กองกลาง มาร์เซโล่ โบรโซวิช, มาเตโอ โควาซิช, ลูก้า โมดริช, แนวรุก นิโกล่า วลาซิช, อันเต้ เรบิช และกองหน้าตัวเป้า บรูโน่ เพ็ตโควิช
ขณะที่ หลุยส์ เอ็นริเก้ เฮดโค้ชทีมสเปนจัดทัพในระบบการเล่น 4-3-3 เช่นกัน โดยรายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงประกอบด้วย ผู้รักษาประตู อูไน ซิมอน, กองหลัง เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, อีริค การ์เซีย, อายเมอริค ลาปอร์ต, โฆเซ่ กาย่า กองกลางนำโดย เซร์คิโอ บุสเกตต์ มิดฟิลด์กัปตันทีม, โกเก้, เปดรี้ ส่วนแนวรุกส่ง เฟร์ราน ตอร์เรส และปาโบล ซาราเบีย ยืนเป็นตัวริมเส้น โดยมี อัลบาโร่ โมราต้า ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าคอยไล่ล่าตาข่าย
ครึ่งแรกสเปนเปิดฉากบุกใส่ตั้งแต่ต้นเกม แต่นาทีที่ 20 โครเอเชียได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากความผิดพลาดของผู้เล่นสเปน เปดรี้ จ่ายบอลคืนหลังให้ อูไน ซิมอน จับพลาดบอลแฉลบหน้าขาไหลเข้าประตูตัวเองไปแบบเหลือเชื่อ และนับเป็นการทำเข้าประตูลูกที่ 9 ของทัวร์นาเมนต์นี้ จากนั้นสเปนโหมบุกหนักจนยิงตีเสมอได้สำเร็จ 1-1 ในนาทีที่ 38 จากจังหวะที่ โฆเซ่ กาย่า ซัดบอลเต็มข้อติดเซฟโดมินิก ลิวาโควิช ก่อนที่ ปาโบล ซาราเบีย ตามซ้ำดาบสองเข้าไปตุงตาข่าย และจบครึ่งแรกเสมอกัน 1-1
ครึ่งหลังนาทีที่ 57 ทัพกระทิงดุพังประตูแซงขึ้นนำ 2-1 เฟร์ราน ตอร์เรส เลื้อยบอลทางฝั่งซ้ายก่อนโยนเข้ากลางให้ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า เติมเกมรุกขึ้นมาโขกบอลเข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวยงาม และเป็นประตูแรกในการรับใช้ทีมชาติสเปนของเจ้าตัวอีกด้วย
นาทีที่ 67 โครเอเชียบุกขึ้นมาได้ลุ้นประตูตีเสมอตีเสมอจาก ยอสโก้ กวาร์ดิออล หาช่องซัดบอลในเขตโทษ แต่ อูไน ซิมอน พุ่งเซฟบอลแก้ตัวไว้ได้ทันทำให้สเปนยิงไม่เสียประตู นาทีที่ 77 สเปนขยับสกอร์ทิ้งห่างเป็น 3-1 จากการเล่นลูกฟรีคิกเร็วของ เปา ตอร์เรส ตัวสำรองที่ลงสนามบอลวางบอลยาวให้ เฟร์ราน ตอร์เรส แต่งบอลหนีแนวรับโครเอเชียแล้วซัดบอลสวนลอดขา โดมินิก ลิวาโควิช เข้าประตูไป
แต่นาทีที่ 85 โครเอเชียยิงไล่มา 2-3 จากจังหวะขลุกขลิกในเขตโทษ และเป็น มิสลาฟ ออร์ชิช ยิงจังหวะสุดท้ายบอลข้ามเส้นประตูไป และช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+3 โครเอเชียเร่งเครื่องฮึดยิงตีเจ๊าเป็น 3-3 ได้สำเร็จจาก มาริโอ ปาซาลิซ ทำให้หมดเวลา 90 นาที เสมอกันสุดมัน 3-3 ต้องต่อเวลาพิเศษ 30 นาที
ช่วงนาทีที่ 100 สเปนได้ประตูนำอีกครั้งเป็น 4-3 ดานี่ ออลโม่ โยนบอลให้ อัลบาโร่ โมราต้า จับบอลลงด้วยเท้าซ้ายก่อนตะบันด้วยเท้าซ้ายเสียบใต้คานเข้าไป และนาทีที่ 103 กระทิงดุยิงทิ้งห่างเป็น 5-3 ดานี่ ออลโม่ ผ่านบอลถวายพานอีกครั้งให้ มิเกล โอยาร์ซาบาล ยิงโล่งๆ เข้าไป
จบเกม สเปน เอาชนะ โครเอเชีย ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 5-3 ทำให้สเปนผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไปได้สำเร็จ โดยจะเข้าไปรอพบทีมชนะระหว่าง ฝรั่งเศส หรือ สวิตเซอร์แลนด์