การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 เมื่อคืนวันที่ 23 พ.ย.65 ที่ คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดี้ยม ประเทศกาตาร์ เป็นการลงสนามของกลุ่มอี เยอรมนี ตัวแทนจากทวีปยุโรป ลงสนามนัดแรกพบ ญี่ปุ่น อีกหนึ่งตัวแทนจากทวีปเอเชีย
เกมนี้ เยอรมนี ของ ฮันซี ฟลิก กุนซือใหญ่ จัดผู้เล่นมาในระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย มานูเอล นอยเออร์ : นิคลาส ซูเล, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, นิโค ชล็อตเทอร์เบ็ก, ดาวิด เราม์ : โยซัว คิมมิช, อิลคาย กุนโดกัน : โธมัส มุลเลอร์, จามาล มูเซียลา, แซร์ช กนาบรี : ไค ฮาแวร์ตซ์
ขณะที่ ญี่ปุ่น ของ ฮาจิเมะ โมริยาสึ จัดผู้เล่นมาในระบบ 4-2-3-1 เช่นเดียวกัน ประกอบด้วย ชูอิจิ กอนดะ : ฮิโรกิ ซากาอิ, มายะ โยชิดะ, โค อิตาคุระ, ยูโตะ นางาโตโมะ : วาตารุ เอ็นโดะ, อาโอะ ทานากะ : จุนยะ อิโตะ, ไดจิ คามาดะ, ทาเคฟุสะ คุโบะ : ไดเซน มาเอดะ
เปิดฉากเริ่มเกม เพียง 7 นาที ญี่ปุ่น ได้โอกาสโต้กลับเร็ว จุนยะ อิโตะ กระชากบอลขึ้นมาทางขวา ก่อนจะจ่ายตัดแนวรับ เยอรมัน ไปที่เสาไกล บอลไปถึง ไดเซน มาเอดะ วิ่งเข้ามายิงเน้นๆ ส่งบอลเข้าประตูไป ทว่าผู้ตัดสินยกธงเป็นล้ำหน้าไปก่อน
จากนั้นทัพอินทรีเหล็ก ที่ครองเกมได้เหนือกว่า และบุกอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ญี่ปุ่น ถอยลงไปตั้งรับและรอจังหวะสวนกลับ นาทีที่ 27 เยอรมันได้บุกขึ้นมาอีกชุด แซร์ช กานาบรี ได้ยิงยิงหน้าเขตโทษ บอลพุ่งตรงกรอบ แต่ยังไม่ผ่านมือนายด่านญี่ปุ่น
จากนั้น นาทีที่ 30 เยอรมัน มาได้จุดโทษ ในจังหวะ ชูอิจิ กอนดะ ผู้รักษาประตู ออกไปตัดบอลฟาวล์ ผู้เล่น เยอรมันในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที และเป็น อิลคาย กุนโดกัน ยิงเข้าไปให้ทีมออกนำ 1-0 ในนาทีที่ 33
จากนั้นเกมยังเป็นของเยอรมัน ที่ครองเกมบุกได้อย่างต่อเนื่อง ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 45+3 เยอรมันเกือบจะได้ประตูที่สอง ในจังหวะ โยชัว คิมมิช ยิงหน้าเขตโทษ ชูอิจิ กอนดะ นายด่านญี่ปุ่นปัดออกมา แต่บอลยังมาเข้าทาง จากลูกยิงของ ไค ฮาแวร์ตซ์ ส่งบอลเข้าประตูไปแล้ว ทว่าผู้ตัดสิน ฟังห้องวีเออาร์ แล้วมองเป็นล้ำหน้าไปก่อน ก่อจจะจบครึ่งแรก เยอรมัน นำ ญี่ปุ่น 1-0
ครึ่งหลัง ญี่ปุ่น พยายามตั้งเกมบุกของตัวเอง ทว่ายังไม่เป็นต่อเนื่อง จากนั้นนาทีที่ 59 อินทรีเหล็ก ได้ลุ้นประตูอีกครั้ง ในจังหวะส่องของ อิลคาย กุนโดกัน บอลพุ่งไปชนเสาออกหลังไปแบบได้เสียว
จากนั้นญี่ปุ่นเริ่มทำได้ดีขึ้น นาทีที่ 72 ได้บุกขึ้นมา ทาคุมะ อาซาโนะ ได้บอลในเขตโทษ ก่อนตัดสินใจยิงทันที ทว่า มานูเอล นอยเออร์ นายด่านอินทรีเหล็ก ปัดมาเข้าทาง ริสึ โดอัน ได้ซ้ำดาบสอง ทว่าบอลมันเหินข้ามคานออกหลังไป
ทว่าถัดมา 5 ความพยายามของขุนพลซามูไรเป็นผล ในจังหวะบุกขึ้นมาทางซ้าย ทาคุมิ มินามิโนะ ได้ตวัดยิง มานูเอล นอยเออร์ ออกมาเข้าทาง ริสึ โดอัน ยิงซ้ำดาบสองเน้นๆ ส่งบอลเข้าประตูไปให้ ญี่ปุ่น ตามตีเสมอ 1-1
10 นาทีสุดท้ายเกมเริ่มเปิดแลกกันสนุก นาทีที่ 84 ญึ่ปุ่นได้บุกเป็นจังหวะบอลจังหวะเดียวจากแดนตัวเอง บอลลอยข้ามมาถึง ทาคุมะ อาซาโนะ วิ่งกระชากใช้ความเร็วเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะยิงเบียดเสาเข้าประตูไป ให้ญี่ปุ่นพลิกแซงขึ้นมานำ 2-1
ช่วงเวลาที่เหลือแม้ว่า เยอรมนีจะพยายามเปิดเกมบุกหวังทวงประตูคืน ทว่าจะงหวะสุดท้ายยังไม่เฉียบคมพอ จบเกม ญี่ปุ่น หักปากกาเซียน ด้วยการแซงเอาชนะเยอมนี 2-1 เก็บชัยชนะประเดิมฟุตบอลโลก 2022 พร้อมกับเป็นที่ที่สองจากทวีปเอเชีย ที่สามารถเก็บชัยชนะได้ในการแข่งขันฟุตบอลโลกหนนี้อีกด้วย
สนับสนุนโดย Line : @Gamemun