“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ดวลจุดโทษชนะ เชลซี 11-10 หลังเสมอใน 120 นาที 0-0 คว้าแชมป์คาราบาว คัพ มาครองเป็นสมัยที่ 9
การแข่งขันฟุตบอล คาราบาว คัพ ฤดูกาล 2021-22 นัดชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 27 ก.พ. 65 ที่สนามเวมบลีย์ สเตเดียม กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ดวลเดือดกับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี
เกมนี้ เยอร์เกน คลอปป์ กุนซือลิเวอร์พูล ไม่มี โรแบร์โต เฟอร์มิโน ที่มีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ ส่วน ดิโอโก โชตา ที่เจ็บข้อเท้าก่อนหน้านี้ฟิตพอมีชื่อเป็นตัวสำรอง ด้าน 3 ประสานแดนหน้าใช้ หลุยส์ ดิอาซ, ซาดิโอ มาเน และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ขณะที่ โธมัส ทูเคิล กุนซือเชลซี จัด คริสเตียน พูลิซิช, เมสัน เมาท์ และ ไค ฮาเวิร์ตซ์ ป่วนแนวรับหงส์แดง
เปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 6 เชลซีได้ทักทายก่อน จากจังหวะที่ ไค ฮาเวิร์ตซ์ จ่ายบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ เซซาร์ อัซปิลิกูเอตา ปาดเข้ากลาง คริสเตียน พูลิซิช ปรี่มายิงแต่ ควิวีน เคลเลเฮอร์ เซฟออกไปได้
จากนั้นนาทีที่ 22 ลิเวอร์พูล ได้ฟรีคิกระยะหวังผล เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เขี่ยให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งหลุดเสาสอง
ถึงนาทีที่ 30 ลิเวอร์พูลน่าขึ้นนำสุดๆ เมื่อ นาบี เกอิตา ยิงไกลเต็มข้อ เอดูอาร์ด เมนดี เซฟออกมาเช้าทาง ซาดิโอ มาเน ตามซ้ำจ่อๆ แต่ เมนดี ก็ยังเซฟออกไปได้อย่างเหลือเชื่อ
นาทีที่ 45 เชลซี โต้กลับเร็ว คริสเตียน พูลิซิช พาบอลลุยขึ้นมา ก่อนจ่ายเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ ไค ฮาเวิร์ตซ์ เปิดเข้ากลาง เมสัน เมาท์ วอลเลย์ด้วยขวาหลุดเสาไม่ถึงคืบ
จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ยังเสมอ เชลซี 0-0
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 49 เชลซีเกือบได้เฮ เมื่อ คริสเตียน พูลิซิช ตักบอลเข้าเขตโทษให้ เมสัน เมาท์ ได้ยิงโล่งๆ บอลชนเสาอย่างน่าเสียดาย
จากนั้นนาทีที่ 63 ลิเวอร์พูลเกือบได้เหมือนกัน ซาดิโอ มาเน จ่ายให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเดี่ยว ก่อนยกบอลข้ามตัว เอดูอาร์ด เมนดี บอลไหลจะเข้าประตูอยู่แล้ว แต่กองหลังเชลซีมาช่วยสกัดทิ้งไปได้
ถึงนาทีที่ 69 ลิเวอร์พูล ชวดได้ประตู จากจังหวะเล่นลูกสูตรที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปิดฟรีคิกเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ซาดิโอ มาเน โหม่งกระดอนพื้นตั้งไปเสาสองให้ โจเอล มาติป โหม่งเข้าไปตุงตาข่าย แต่สุดท้ายผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์และมองว่ามีการล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
นาทีที่ 74 ลิเวอร์พูล หวิดได้ประตู เมื่อ หลุยส์ ดิอาซ พาบอลกระชากมาซัดในเขตโทษ แต่ เอดูอาร์ด เมนดี ยังเซฟออกไปได้
นาทีที่ 78 เชลซี ชวดได้เฮ จากจังหวะเปิดบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ติโม แวร์เนอร์ เปิดเข้ากลาง ไค ฮาเวิร์ตซ์ โหม่งเข้าไป แต่ถูกจับล้ำหน้า
นาทีที่ 90 ลิเวอร์พูลเกือบได้อีกแล้ว ลูกเตะมุมจากฝั่งขวาเปิดเข้าเขตโทษ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ขึ้นโหม่งเน้นๆ แต่ เอดูอาร์ด เมนดี ยังพุ่งปัดออกไปได้อีก
เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ 90+4 ลิเวอร์พูลเกือบโดน เมื่อ โรเมลู ลูกากู ได้ยิงในเขตโทษ ร้อนถึง ควิวีน เคลเลเฮอร์ ต้องเซฟออกไป
จบ 90 นาที ทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกัน 0-0 ต้องมาลุ้นกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ
นาทีที่ 98 เชลซี ชวดได้ประตูจากจังหวะที่ โรเมลู ลูกากู หลุดไปยิงในเขตโทษตุงตาข่าย แต่ถูกจับล้ำอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 111 ไค ฮาเวิร์ต ของเชลซี ตะบันด้วยซ้ายเน้นๆ บอลพุ่งเข้าไปตุงตาข่าย แต่ถูกจับล้ำหน้าอีกครั้ง
ครบ 120 นาที ทั้งสองทีมยังเสมอกัน 0-0 ต้องตัดสินหาแชมป์ด้วยการดวลจุดโทษ และเป็น ลิเวอร์พูล ยิงแม่นกว่าชนะไป 11-10 คว้าแชมป์ คาราบาว คัพ มาครองเป็นสมัยที่ 9 มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของรายการนี้
สนับสนุนโดย Line : @Gamemun